อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 9
ระหว่างนั้น กระเป๋าใบโตที่แจ๊สซ่อนอยู่มีการเคลื่อนไหวไปทางเวที โจ๊กกับจีจ้าแกล้งร้องเรียกแจ๊สเสียงดังหลอกให้พิมมาดามองไปอีกทาง แล้วแจ๊สก็วิ่งไปทางเวทีทันที ถูกครูฟ้าใสจับตัวไว้ได้ พิมมาดาจะพากลับบ้าน
โจ๊กกับจีจ้าวิ่งเข้าไปจี๋เอวครูฟ้าใส ครูบ้าจี้หัวเราะคิกคักปล่อยมือ แจ๊สวิ่งไปบนเวทีได้สำเร็จแต่พิมมาดายังตามไปยับยั้ง
กริสน์มาถึงพอดี ถูกพิมมาดาไล่ไม่ให้มายุ่ง เขากระโดดขึ้นไปบนเวที คว้าไมค์จากพิธีกร พูดกับผู้ชมในฮอลล์ว่า
“ทุกๆ ท่านในที่นี้ครับ ดูสิครับ...กว่าที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อมาประกวดเต้นใน วันนี้ได้ มันยากลำบากแค่ไหน จะเต้นกับทีมของโรงเรียนก็ไม่ได้รับการต้อนรับ จะเต้นเองที่บ้านก็ไม่สนับสนุน เธอเลยต้องแอบฝึกซ้อม ทำทุกอย่างมาเป็นปีๆ เพื่อวันนี้...วันนี้วันเดียว...แล้วเราจะไม่ให้โอกาสเขาหน่อยเหรอครับ”“นายหยุดพูดเดี๋ยวนี้” พิมมาดาพยายามขัดขวาง
“เด็กๆควรจะมีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองไม่ใช่เหรอครับ ใครอยากดูน้องแจ๊สทำตามฝัน ผมขอเสียงหน่อยได้ไหมครับ” กริสน์ปลุกเร้า แต่ทั้งห้องเงียบกริบ แจ็สใจเสียน้ำตาคลอ
กริสน์ตัดสินใจปรบมือนำเป็นคนแรก เต๋า เต้ยและเค้กปรบมือตาม จากนั้นทั้งเสียงเฮและเสียงปรบมือก็ดังกึกก้องยาวนาน กริสน์ร้องนำ “น้องแจ๊ส...น้องแจ๊ส...น้องแจ๊ส...” เสียงตะโกนตาม เชียร์ให้แจ๊สประกวดก้องไปทั้งฮอลล์
เค้กบอกพิมมาดาให้ลงไปก่อนอายเขา เมื่อพิมมาดายอมลง เต๋า เต้ย ก็พากันตามลงมา กริสน์หันยิ้มกับแจ๊ส บอกว่า
“เต็มที่เลยนะแจ๊ส”
พอแจ๊สเริ่มเต้น ทั้งฮอลล์ก็เงียบกริบ ทุกคนมองตะลึงกับลีลาเต้นอย่างมืออาชีพที่สวยงาม จังหวะแม่นยำของแจ๊ส เต๋า เต้ย และเค้กมองอย่างไม่เชื่อสายตา ส่วนโจ๊กกับจีจ้า ร้องเชียร์เต็มที่แจ๊สเต้นจนโพสท่าจบอย่างสวยงาม เสียงปรบมือโห่ร้องยินดีกึกก้องยาวนาน ครูฟ้าใสเปลี่ยนจากต่อต้าน มาเป็นกระโดดไปบนเวทีแสดงตัวเป็นครูของแจ๊ส อวดใครๆ หน้าบานเป็นกระด้ง
ขณะพิมมาดายืนอึ้งอย่างคาดไม่ถึงอยู่นั้น กริสน์ เดินมาข้างหลังพูดเบาๆ
“ไม่เคยรู้มาก่อนเลยสิว่าหลานตัวเองมีความสามารถขนาดนี้ ไม่มีคนสนับสนุนยังได้ขนาดนี้ ถ้ามีคนสนับสนุนจะขนาดไหน”
พิมมาดาไม่แยแสกับกริสน์ เดินพุ่งไปที่หลังเวที คว้ามือแจ๊สพูดหน้าเข้มขึงขัง
“กลับบ้าน เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน” แจ๊สขอให้รอเขาตัดสินก่อน “คนทำผิดไม่มีสิทธิ์ต่อรอง กลับบ้าน!” แม้โจ๊กกับจีจ้าจะมาช่วยขอก็ถูกดุให้เงียบ แล้วสั่งเต๋ากับเต้ยให้เอาตัวแจ๊สไปขึ้นรถ
ooooooo
พอกลับถึงบ้าน พิมมาดาก็เปิดฉากคิดบัญชีกับแจ๊สหาว่าทั้งขึ้นขโมยและขี้โกหก สั่งเต๋าให้ไปหยิบไม้เรียวมา
แจ๊สพยายามชี้แจงว่าถ้าน้าพิมให้ตนเบิกเงินล่วงหน้าตนก็ไม่ขโมย ถูกถามว่าแล้วทำไมไม่บอกว่าจะเอาเงินไปทำอะไร
“ถึงบอกน้าพิมก็ไม่ให้อยู่ดีแถมยังจะห้ามไปประกวดด้วยซ้ำ แล้วเรื่องอะไรแจ๊สต้องบอก” พิมมาดาถามว่ารู้ได้ไงว่าน้าไม่ให้ “รู้...ใครๆก็รู้ โจ๊กกับจีจ้าก็รู้”
“ใช่” สองคนที่ถูกอ้างขานรับเข้มแข็ง จีจ้ายังฟ้องร้องว่า “น้าพิมจะให้เราเอาแต่เรียน นอกนั้นห้ามหมด”
“อะไรที่พวกเราชอบ อะไรที่พวกเราอยากทำ คือไร้สาระหมด” โจ๊กเอามั่ง
“น้าพิมไม่เคยฟังเหตุผลพวกเราเลย เอาแต่ห้าม...ห้ามๆๆๆ” แจ๊สเสียงสะท้านอย่างอัดอั้น
พิมมาดาสั่งเด็กๆให้หยุดตะโกนใส่ตน รับไม้เรียวจากเต๋า คว้าตัวแจ๊สจับไว้แน่น หาว่าเด็กๆโยนความผิดให้ตน ย้ำว่า “ถึงยังไง ขโมยก็ยังเป็นขโมย เป็นคนไม่ดี”
“แจ๊สไม่ดี น้าพิมก็ไม่ดี” แจ๊สตะโกนใส่ ทำเอาทั้งเต๋า เต้ย และเค้กตกใจ พิมมาดาโกรธมากเงื้อไม้เรียวจะตีแจ๊ส โจ๊กออกไปปกป้องไม่ให้ตีแจ๊ส จีจ้าเดินไปเงยหน้าว่าน้าพิมฉอดๆว่า
“น้าพิมไม่เคยเข้าใจพวกเราเลย แล้วยังไล่น้ากริสน์ คนเดียวที่เข้าใจพวกเราออกไปอีก” โจ๊กเห็นด้วย บอกว่ามีแต่น้ากริสน์คนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจพวกเรา แล้วเด็กๆทั้งสามก็พากันวิ่งเข้าบ้านไป พิมมาดายืนช็อก เค้กเข้ามาจับแขนพิมมาดาบอกว่าให้ปล่อยเด็กๆไปก่อนดีกว่า เต๋ากับเต้ยเห็นด้วย
“นี่มันอะไรกัน กลายเป็นว่าฉันเป็นคนผิดเหรอ ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้แจ๊สขโมยเหรอ ทำไมถึงเป็นฉัน...เด็กๆ ไม่รักฉัน แต่กลับไปรักนายพี่เลี้ยงคนนั้น...” พิมมาดาพึมพำอย่างข้องใจ...รับไม่ได้...
ooooooo
ภัทรดนัยหนีออกจากออฟฟิศขนมได้อย่างหวุดหวิด จตุพลสั่งสมุนให้ตรวจสอบว่าพวกนั้นเป็นใครมีอะไรหายไปหรือมีอะไรขยับเขยื้อนบ้างหรือเปล่า น้อมพงษ์ถามว่าทำไมเราไม่เช็กจากกล้องวงจรปิดล่ะ จตุพลเลยนึกได้สั่งให้ดำเนินการเลย
หลังการตรวจสอบแล้ว จตุพลเอาภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้สุขสันต์ดู ครู่หนึ่งมีลูกน้องจตุพลเข้ามารายงานว่า สูตรเคมีของขนมสวีทโอปอล์หายไป
“มันแปลว่า ฉันอาจจะถูกสอยร่วงจากบัลลังก์ไปเข้าคุกได้เลยนะ ไอ้พวกไม่ได้เรื่อง” สุขสันต์ด่าแล้วตบหัวฉัตรชัยกับฮิมผัวะๆๆๆ ตวาด “พวกแกไปสืบมาว่ามันสองคนเป็นใคร แล้วก็ไปลากคอมันมา ฉันให้เวลาสามวัน ถ้าทำไม่ได้พวกแกตาย!”
เสี่ยอธิปที่แกล้งทำเป็นสติฟั่นเฟือนหลังจากกินยาบำรุงของจตุพล ร้อนใจกลัวว่าถ้าพวกจตุพลจับได้โอปอจะได้รับอันตราย บอกเดชว่าตนจะเป็นจะตายไม่เป็นไรแต่โอปอต้องปลอดภัย เดชบอกว่าเราหนีเองคงไม่รอดแน่ คงต้องรอ เสี่ยถามว่ารอใคร ใครจะมาช่วยเราได้
มีเสียงเปิดประตู เดชบอกว่าได้เวลาทานยาแล้ว เสี่ยรีบขึ้นไปนอนป่วยบนเตียงทำเป็นหายใจติดๆขัดๆ
จตุพลเรียกเสี่ยให้ดื่มยา น้อมพงษ์จะกรอกยาให้ก็พอดีโอปอเข้ามาโวยวายไม่ยอมให้ป๊ากินยา วิ่งเข้าไปปัดจนยาหก จ้องหน้าจตุพลพูดว่า
“โอปอไม่ให้ป๊ากินยานี้อีกแล้ว! อาจตุพลคิดจะทำอะไรป๊า โอปอรู้นะ อาจตุพลใจร้าย โอปอเกลียดๆๆ” โอปอทุบตีจตุพล เดชรีบคว้าตัวไว้บอกว่าจตุพลกำลังรักษาป๊าอยู่ ถ้าป๊าอาการไม่ดีขึ้นก็อย่าโทษอาเขา แล้วอุ้ม โอปอออกไป
เดชปลอบและอธิบายให้โอปอเข้าใจว่าถ้าอยากให้ป๊าปลอดภัยก็ต้องเชื่อตน โอปอถามว่าเดชอยู่ข้างใคร ทำไมไม่ช่วยป๊า ปล่อยให้อาน้อมพงษ์เอายาพิษให้ป๊ากินทำไม
“ผมก็อยู่ข้างคุณหนูกับป่าป๊าสิครับ แต่ทั้งหมดที่คุณหนูเห็นมันเป็นแผน...ถ้าอยากให้ป่าป๊าปลอดภัย ทั้งคุณหนูและผมต้องทำตัวตามปกติ อย่ามีพิรุธ เราต้องทำเหมือนยังไม่รู้ว่าป่าป๊าหายป่วยแล้ว เพราะถ้าอา
จตุพลหรือใครในบ้านนี้รู้เข้า ทั้งป่าป๊า คุณหนู แล้วก็ผม โดนเจื๋อนแน่ เสี่ยไม่ได้กินยาจริง แค่อมเอาไว้แล้วก็บ้วนทิ้ง เชื่อผมนะครับคุณหนู อดทนอีกหน่อย ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ ผมจะพาคุณหนูกับป่าป๊าหนีออกไปจากที่นี่เอง”
โอปอสงบลง แต่ยังไม่เชื่อเดชนัก
จตุพลรู้ว่าเสี่ยอธิปไม่ได้กินยาและไม่ได้ฟั่นเฟือน สั่งน้อมพงษ์ให้จับตาดูทั้งเสี่ยและเดชกับโอปออย่างใกล้ชิดอย่าให้คลาดสายตา
ooooooo
ผลการถอดรหัสออกมาแล้ว แต่ถูกมาวินมาขโมยไป ส่วนภัทรดนัยกับกริสน์คิดว่ายังถอดรหัสไม่เสร็จ กริสน์ร้อนใจจึงไปเอารหัสที่ภัทรดนัยปริ๊นต์ให้ชุดหนึ่งซึ่งเขาไม่ทันเอาออกจากห้องพักตอนที่ถูกไล่ออกจากบ้านพิมมาดา
ระหว่างนั้นกริสน์ได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยอธิปขอให้ช่วยพวกตนด้วยเพราะจตุพลเริ่มสงสัยแล้ว กริสน์รับปากว่าจะพยายามแต่เสี่ยก็ต้องระวังตัวเองด้วย
ส่วนโอปอค้นเจอยาที่จตุพลเอาให้เสี่ยกิน
หนูน้อยเอายาไปเททิ้งหมด ถูกน้อมพงษ์แอบดูอยู่ไม่รู้ตัว
จตุพลเข้าไปเจอเสี่ยกำลังคุยโทรศัพท์กับกริสน์ เสี่ยเลยแกล้งทำเป็นบ้าทันที จตุพลต้องการบีบให้เสี่ยยอมรับว่าโกหกจึงเอาโอปอมาเป็นตัวต่อรองจนเสี่ยทนไม่ได้
ระหว่างนั้น เสียงโต้เถียงและทำร้ายเสี่ยดังเข้าไปในโทรศัพท์ทำให้กริสน์รู้ว่าเกิดเหตุร้ายกับเสี่ยแล้ว
เมื่อเสี่ยถูกจับได้ว่าแกล้งบ้า จึงร้องบอกเดชให้รีบพาโอปอหนีไป ส่วนตัวเองกอดจตุพลไว้ไม่ให้ขัดขวาง เดชพาโอปอหนีไปอยู่กับ แจ๊ส โจ๊ก และจีจ้า ที่กำลังรวมพลังกันต่อต้านพิมมาดา ขังตัวเองไว้ไม่ยอมออกจากห้อง
กริสน์ไปเอารหัสแผ่นนั้นที่ห้องพัก พยายามถอดรหัส โดยมีจีจ้าที่ชอบเล่นปริศนาอักษรไขว้คอยช่วยเหลือ ในที่สุดถอดรหัสออกมาได้ว่า มีการนัดแนะส่งของกันที่ท่าเรือระบุวันเวลาเป็นรหัสไว้ชัดเจน กริสน์ตัดสินใจจะไปจับเพื่อเอาหลักฐานจากการแผนร้ายนี้ จึงปฏิเสธที่จะไปช่วยเสี่ยอธิปกับเดช เดชจึงไปคนเดียว ส่วนเขาไปกับภัทรดนัยและตำรวจอีกสามนาย
“ถ้าเราได้หลักฐานแบบคาหนังคาเขาอย่างนี้ มันดิ้นไม่หลุดแน่” ภัทรดนัยมั่นใจมากแล้วบอกทางเข้าออกของท่าเรือให้ทุกคนรับรู้ เพื่อเตรียมดำเนินการ
ooooooo
ระหว่างที่ซุ่มรอดำเนินการนั่นเอง มาวินที่ขโมยรหัสไป ก็นำกำลังบุกเข้ามาตัดหน้า ภัทรดนัยเจ็บใจมากบอกกริสน์ว่า
“ไอ้มาวิน มันอีกแล้ว มันจะตามขโมยผลงานฉันให้ได้ใช่ไหม แล้วมันรู้เรื่องนัดหมายได้ยังไง”
มาวินทำกร่างเข้าไปตรวจตู้คอนเทนเนอร์ รื้อลังที่ใส่ดอกไม้พบข้างล่างเป็นห่อยา ที่สำคัญคือดอกไม้เหล่านั่นระบุว่าร้านพริมโรสเป็นผู้สั่งเข้า กริสน์จึงรู้ว่าที่แท้สุขสันต์มาจีบพิมมาดาก็เพื่อการนี้นี่เอง
เมื่อรู้เช่นนี้ ภัทรดนัยจะไปจัดการมาวินที่มาชุบมือเปิบ ส่วนกริสน์รีบไปช่วยพิมมาดา
หลังจากนั้นไม่นาน สุขสันต์ก็ได้รับรายงานจากฮิมว่า
“คนของเราโทร.มาบอกว่า เมื่อสักพักที่ท่าเรือมีตำรวจบุกมาขอค้นตู้คอนเทนเนอร์ของเราครับ แล้วก็ค้นเจอ...ทุกอย่างเลยครับ”
“หา!” สุขสันต์สุดแค้น
ooooooo
มาวินขึ้นรถสั่งคนขับให้ไปถึงร้านพริมโรสภายในสิบห้านาที แต่ถูกภัทรดนัยขับรถมาขวาง มาวินโมโหพุ่งเข้าตะคอก
“แกจะขัดขวางการทำงานของฉันเหรอ หรือว่าแกมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้”
“ฉันเร็วได้แค่นี้แหละ ถ้าแกอยากจะรีบขโมยผลงาน แกก็หาทางเอาเองแล้วกัน”
มาวินตรงเข้าเปิดประตูกระชากภัทรดนัยลงจากรถ ตะคอก “แกทำงานช้าเอง ไม่มืออาชีพแล้วจะมาพาลฉันได้ไง อยากมีเรื่องเหรอ!”
“เออ! อยากมี!” ภัทรดนัยกระชากคอเสื้อมาวิน พูดใส่หน้า “ฉันสุดทนกับความขี้ขโมยของแกเต็มทีแล้ว... ลองกันสักตั้งไหม!”
ทั้งคู่ต่างจ้องกันด้วยความแค้นที่ทับถมมานาน...
ต่างจ้องร้องท้าทายกัน ภัทรดนัยถูกมาวินตีเข่าผ่าหมากแล้วให้ลูกน้องไปเลื่อนรถเปิดทางขับออกไปทันที
ooooooo
พิมมาดาถูกเค้ก เต๋า เต้ย รุมกันเตือนสติ ตำหนิว่า ควรลดทิฐิลงบ้าง เค้กย้ำกับพิมมาดาว่า เด็กๆต้องการกริสน์ เขาทำให้เด็กๆดีขึ้น เธอเองก็ควรคิดว่า ทำไมเด็กๆถึงเชื่อกริสน์มากกว่าเธอ พิมมาดาโทษว่ากริสน์ล้างสมองเด็กให้เกลียดตน ย้อนเค้กว่า ตัวเองนั่นแหละ เลิกหลงกริสน์จนหน้ามืดตามัวได้แล้ว
เค้กฉุน โต้ไปว่าตนก็ดี้ด๊าขำๆไปอย่างนั้นเอง เอาเข้าจริงตนก็ยังมีสติ มีสติยิ่งกว่าเธอด้วย บ่นเพื่อนว่า
“ฉันไม่เข้าใจ คุณกริสน์ไปทำอะไรให้เธอเจ็บช้ำ น้ำใจเหรอ ทำไมเธอถึงได้จงเกลียดจงชังเขาขนาดนี้”
โต้กลับแล้วเห็นพิมมาดาเงียบ เค้กพูดประชดนิดๆว่า “ขอโทษด้วยแล้วกัน ที่ยุ่งเรื่องเธอมากไป”
ทั้งเค้ก เต๋า และเต้ย ต่างแยกย้ายกันไป ทิ้งพิมมาดา ให้ยืนอย่างโดดเดี่ยวอยู่ตรงนั้น
ooooooo
กริสน์วิ่งกระหืดกระหอบมาถึงพอดี แหวกเค้ก เต๋า และเต้ยที่มาขวางไม่ให้เข้าไปตอนนี้ เพราะพิมมาดากำลังอารมณ์ไม่ดี เขาพรวดเข้าไปบอกเธอว่า ต้องรีบหนีไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ตนจะไปตามเด็กๆ บอกเต๋ากับเต้ยให้อยู่กับเค้กคอยดูแลทางนี้
ทุกคนงงกับการมาอย่างร้อนรนของกริสน์ โดยเฉพาะพิมมาดาไล่เขาว่ามาที่นี่อีกทำไม กริสน์บอกว่าตนไม่มีเวลาอธิบาย บอกแต่ว่า ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ตำรวจกำลังจะมาจับเธอถ้าไม่อยากรับกรรมที่ไม่ได้ก่อก็ไปกับตน ตนจะพาหนีเอง
พิมมาดาไม่เชื่อ กริสน์จำต้องย้ำให้ชัดว่า
“ก็เพราะแฟนสุดที่รักของคุณ คุณสุขสันต์แอบนำเข้ายาเสพติด แล้วเอาร้านพริมโรสของคุณมาบังหน้า”
พิมมาดายิ่งไม่เชื่อหาว่าเขาใส่ร้ายสุขสันต์ ไล่ให้ออกจากบ้านตนไปเดี๋ยวนี้เลย แล้วหันเดินเข้าบ้าน
กริสน์ตามไปเล่าความจริงให้ฟัง ย้ำว่าเวลานี้เธอกลายเป็นผู้ต้องหาเบอร์หนึ่งไปแล้วยังไม่รู้ตัวอีกหรือ เมื่อพิมมาดาไม่ฟัง กริสน์จึงแสดงตัวว่า
“ผมเป็นตำรวจสายลับที่แทรกซึมแฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งคนร้ายนานเป็นปีๆ เพื่อหาหลักฐานที่จะเอาผิดหัวหน้าขบวนการนำเข้ายาเสพติดรายนี้ ทีนี้คุณจะเชื่อผมแล้วหนีไปกับผมได้หรือยัง” เมื่อพิมมาดายังไม่เชื่อ กริสน์พูดอย่างร้อนใจมากว่า “ผมเป็นตำรวจจริงๆคุณพิม ที่ผมเสี่ยงตายกลับมาหาคุณ เพราะผมเป็นห่วงคุณจริงๆ ขอร้องล่ะ เชื่อผมเถอะ...”
“ฉันจะโทร.หาคุณสุขสันต์ ถามให้รู้เรื่อง”
“อย่าโทร.!” กริสน์โดดขวางสุดตัว
ooooooo
ทีวีกำลังออกข่าวการจับกุมยาเสพติดที่ท่าเรือ นักข่าวสาวจอมลุยขึ้นไปนั่งอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ รายงานข่าวการใช้ดอกไม้บังหน้าขนยาเสพติด
ระบุว่า ตู้คอนเทนเนอร์นี้จดทะเบียนในชื่อท่าน ส.ส.สุขสันต์ ซึ่งทางตำรวจคงจะเชิญมาสอบ
สุขสันต์นั่งดูทีวีอยู่ กดปิดทันที ฉัตรชัยกับฮิม
รอลุ้นอยู่ว่าสุขสันต์์จะทำอย่างไร เสียงโทรศัพท์บ้านดังระงมทุกเครื่อง สุขสันต์สั่งห้ามรับสาย มือถือของฮิมดังขึ้นพอเห็นหน้าจอเป็นพิมมาดาก็อึ้ง มือถือของฉัตรชัยดังเช่นกันเป็นสายจากแพรวพิลาศ
มีทั้งสายจากพิมมาดาและแพรวพิลาศเข้ามาพร้อมกัน ฉัตรชัยถามว่า “ชั่วโมงนี้จะรับใครดีครับท่าน”
ไม่มีคำตอบ แต่หลังจากนั้นไม่นาน แพรวพิลาศก็มาถึงบ้านสุขสันต์ เขาเข้าไปกอดเธอจากข้างหลัง รำพันความรักที่มีต่อเธอ ถามว่าเธอก็รู้ว่าตนไม่เคยรักใครจริงนอกจากเธอ แล้วจะปล่อยให้ตนถูกตำรวจจับเข้าคุกหรือ สัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่แตกแถวไปหาใครอีกแล้ว
“คุณไม่ต้องมาทำอย่างนี้ ยังไงแพรวก็ไม่ช่วย” แพรวพิลาศทำเสียงแข็ง แต่พอสุขสันต์เข้ากอดอ้อนไม่กี่คำ เธอก็ยังปฏิเสธแต่เสียงเปลี่ยนเป็น “ไม่...ไม่...มะ...ไม่... อูยยยยยย”
ooooooo
กริสน์เปิดเผยตัวจนตนหมดเปลือก แต่พิมมา-ดาก็ยังไม่เชื่อและไม่ยอมหนีไปกับเขา เวลาผ่านจนมาวินนำกำลังมาถึง กริสน์ตัดสินใจวิ่งไปพาเด็กๆ หนีนัดพิมมาดาไปเจอกันที่หลังบ้าน
พิมมาดายังเชื่อมั่นว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไรและสุขสันต์ก็ไม่มีวันทำกับตนแบบนั้นด้วย เธอไม่ยอมไปกับกริสน์ จนมาวินนำตำรวจมาถึง ถือปืนเข้ามาสั่ง “หยุด! ทุกคนอย่าขยับ!”
กริสน์ไปเรียกเด็กๆ เพื่อพาหนี เด็กๆไม่ยอมไปถ้าน้าพิมของพวกเขาไม่ไปด้วย โจ๊กจะไปช่วยน้าพิม กริสน์ต้องกล่อมว่า เราน่าจะมาวางแผนกันหน่อยไหม ตนมีแผน พวกเด็กๆ จึงยอมฟัง
ที่หน้าบ้าน มาวินตรงมากล่าวหาพิมมาดาและจับใส่กุญแจมือ เค้กร้องบอกว่าพิมมาดาเคยเป็นแฟนเขานะ มาวินตอบผยองว่า ตนทำงานมีมาตรฐานเดียว กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย
พวกเด็กๆ พากันกรูเข้าช่วยพิมมาดา โวยวาย ร้องกันกระจองอแง มาวินไม่สนใจ สั่งตำรวจเอาตัว
พิมมาดาไปขึ้นรถ
ทันใดนั้น จีจ้าล้มลงชักดิ้นชักงอร้องว่าหายใจไม่ออก พิมมาดาตกใจถามว่ายาอยู่ไหน แจ๊สบอกให้เต๋ากับเต้ยเข้าไปหยิบ ปรากฏว่าทั้งสองหาไม่เจอ
พิมมาดาจึงเข้าไปหา ถูกกริสน์ที่ซุ่มอยู่ตะครุบเอามือปิดปากพาไปหลังบ้านทันที
พอพิมมาดาถูกกริสน์เอาตัวไปแล้ว จีจ้าก็หายป่วยทันที มาวินเอะใจให้คนเข้าไปตาม แจ๊สรีบบอกน้องๆว่าหนีเร็ว ให้ไปขึ้นรถน้ากริสน์ที่หน้าบ้าน เด็กๆ กำลังจะวิ่งออกไป มาวินก็ย้อนกลับมาสั่งให้หยุด แล้วไล่ตามไปทันที
เด็กๆวิ่งไปจะถึงรถอยู่แล้ว จีจ้าเกิดหกล้ม มาวิน
จับตัวจีจ้าไว้ กริสน์ตะโกนว่า “อย่าทำอะไรจีจ้านะ”
“แกไอ้เด็กร้านดอกไม้ วางแผนชิงตัวผู้ต้องหา คิดว่าแกเป็นใคร โธ่เอ๊ยไอ้แต๋วร้านดอกไม้ ยกมือขึ้นไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” มาวินหันมาตะคอกขู่
ขณะที่กริสน์ค่อยๆยกมือขึ้นนั้น ภัทรดนัยในชุดวินมอเตอร์ไซค์ก็ขี่รถพุ่งชนมาวินจนจีจ้าหลุดมือ กริสน์รีบต้อนพวกเด็กๆไปขึ้นรถ มาวินมองภัทรดนัย ถามว่ารู้กันกับเด็กร้านขายดอกไม้ใช่ไหม แล้วฉุกคิดถามว่า
“พวกแกรู้จักกันเหรอ หา! หรือว่าไอ้กริสน์ แกไม่ใช่เด็กร้านดอกไม้ แต่แกเป็นคู่หูของไอ้ภัทรดนัย”
ทันใดนั้นตำรวจที่มากับมาวินก็พรวดเข้ามาเอาปืนจ่อกริสน์กับภัทรดนัยพรึ่บ มาวินสะใจมากคิดว่านอกจากจับแก๊งค้ายาใหญ่ได้แล้วยังจับตำรวจนอกรีตได้อีก หัวเราะลำพองใจว่าไม่รู้จะเอาบ่าที่ไหนมาประดับดาวดี แล้วสั่งตำรวจให้จับตัวไป
พวกตำรวจกำลังจะเข้าไปจับกริสน์กับภัทรดนัย เต๋ากับเต้ยก็วิ่งโวยวายมาบอกว่ามีคนบ้าจะมาข่มขืนพวกตน แล้ววิ่งเข้าไปขัดแข้งขัดขามาวินกับพวกตำรวจ มาวินโมโหยิงปืนปัง ทุกคนเลยชะงัก แต่เค้กในชุดเซ็กซี่ก็วิ่งมาร้องขอความช่วยเหลืออีก
มาวินกับตำรวจถูกก่อกวนถ่วงเวลา จนกริสน์พาพวกเด็กๆ และพิมมาดาขึ้นรถขับออกไป ตำรวจจะวิ่งตามประตูรีโมตก็ปิดกั้นไว้ มีเพียงตำรวจบางคนที่วิ่งออกไปทัน แต่รถตำรวจออกไม่ทัน
ooooooo
อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 9 วันที่ 30 ม.ค.55
โดย บทประพันธ์ สีชาติ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอกาส
ละครเรื่องมือปราบพ่อลูกอ่อน ติดตามชมได้ทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ La Thakpea, is one of professional hair braid with many styles for your favorite ones. I am available to go to your residence or anywhere in Bangkok you date. For more Infor, Plz Call: (+66) 086-551-3967 you may email us at: phalla19@gmail.com
0 comments:
Post a Comment