อ่านละครดุจดาวดิน ตอนที่ 10
บุษบาซึ้งสะเทือนใจกับคำว่า “แม่” ที่บุญทิ้งเรียก แม้จะไม่ใช่จากปากลูกแท้ๆก็ตาม เธอดึงบุญทิ้งเข้าไปกอด ด้วยความรู้สึกประหนึ่งได้กอดลูกของตัวเอง...
ส่วนสิริโสภาอยู่ให้กำลังใจภาคินต่อสู้กับอุปสรรคและปัญหาที่กระหน่ำเข้ามาอย่างรุนแรง เธอปลุกใจเขาว่า
“อย่าท้อนะคะ ภาเชื่อมั่นในตัวคุณ เชื่อว่าคุณจะผ่านเรื่องร้ายๆ คราวนี้ไปได้ ภาอยู่เคียงข้างคุณเสมอ”
ภาคินแตะมือสิริโสภาอย่างขอบคุณและเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวที่จะสู้ต่อไป
เป็นเวลาที่ปานฟ้ามาหาเขาและเห็นภาพนั้นพอดี ทั้งเรื่องที่สิริโสภารับโทรศัพท์แทนภาคินตอนบ่ายและภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้ปานฟ้าตัดสินใจหันหลัง
เดินกลับด้วยหัวใจที่แตกสลายกับทุกเรื่องที่รุมเร้าเข้ามา
“อ้าวคุณฟ้า...มานานรึยังครับ” เสียงตุลย์ร้องทัก ทำให้ภาคินปล่อยมือจากสิริโสภาหันมอง เจอสายตาปานฟ้าที่เย็นชาและน้อยใจ เธอพูดเสียงเครือๆอย่างพยายามข่มความรู้สึกว่า
“คิดว่าคุณไม่สบายหรือมีปัญหาอะไรถึงไปตามนัด ไม่ได้ แต่เห็นแบบนี้แล้วคงไม่มีอะไร ขอโทษนะคะที่มารบกวน”
ภาคินอึ้งไปอึดใจ พอนึกได้ก็รีบตามไปขอโทษ พยายามชี้แจงว่า ตนยุ่งมากจนลืมนัด...
ปานฟ้าขัดขึ้นทันทีว่าไม่เป็นไร ธุระของตนไม่สำคัญ เมื่อภาคินถามอย่างเป็นห่วงว่า หน้าตาเธอไม่ค่อยสบายใจมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ปานเดือนเป็นอย่างไรบ้าง เธอตัดบทเรียบๆแต่ด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดว่า
“มันไม่สำคัญแล้วล่ะค่ะ” แล้วหันหลังเดินไปขึ้นรถขับออกไป ภาคินยืนมองหน้าเครียดกับปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา...
ooooooo
ภาคินไปขอร้องวิมลวรรณให้ช่วยพูดความจริงเพราะเวลานี้มูลนิธิถูกสั่งปิด เด็กๆหลายคนกำลังลำบาก พูดเพื่อให้เห็นใจว่า
“คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องทั้งหมดผมถูกใส่ร้าย ทั้งเรื่องสายฝน จนถึงเรื่องนี้ คุณกับก้องภพเป็นคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด”
“เหรอ...ฉลาดขึ้นมาแล้วนี่ ไงล่ะ เห็นรึยังว่าฉันจะทำอะไร ยังไงกับแก กับแม่ของแกก็ได้ แกสองคนแม่ลูกจะไม่มีวันได้อะไรทั้งนั้น ฉันจะเป็นคนทำลายทุกอย่างของพวกแกเอง เหมือนกับที่แม่แกเคยทำกับฉัน”
ไม่เพียงย้ำความอาฆาตมาดร้ายเท่านั้น วิมลวรรณยังทำเป็นนึกได้ บอกข่าวดีว่าปานฟ้าตกลงรับหมั้นก้อง– ภพแล้ว และจะรีบหมั้นเร็วๆนี้ ภาคินไม่เชื่อ วิมลวรรณเยาะเย้ยว่า
“ผู้ชายที่ตกต่ำลงทุกวันอย่างแก ใครเขาจะเอา เจียมกะลาหัวซะบ้าง อย่าคิดมาแข่งกับลูกชายฉัน”
แม้ปากจะปฏิเสธว่าไม่จริง ไม่เชื่อ แต่ภาคินก็อดช็อกกับข่าวนี้ไม่ได้ เขาผลุนผลันออกจากบ้านไปทันที
วิมลวรรณหัวเราะอย่างสะใจ แต่พอหันมาเห็นอานนท์ยืนมองหน้านิ่งอยู่ก็อึ้งไปนิดหนึ่ง แล้วพูดเยาะเย้ยว่าเมื่อกี้ทำไมไม่ออกมาช่วยลูกชายสุดที่รัก
อานนท์สุดที่จะทนต่อไปได้ ประกาศตัดขาดจากกันกับวิมลวรรณ บอกว่าสุดที่จะทนอยู่กับคนชั่วช้าอย่างเธอได้อีกต่อไป พูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า
“ผมจะออกจากบ้านนี้ จะไปตามหาบุษบา ไปหา ผู้หญิงที่ผมรัก จะไม่กลับมาบ้านนี้อีก”
“ไปเล้ย...จะไปไหนก็ไป คิดเหรอว่าจะหามันเจอ ชีวิตนี้แกไม่มีวันจะหานังบุษบาเจออีก” วิมลวรรณจ้องจิกอานนท์ราวกับจะให้มอดไหม้ไปกับสายตาที่เคียดแค้นของตน
ภาคินไปที่บ้านฟ้าเจอสายอุษา เขาขอพบปานฟ้า สายอุษาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเรียบเฉยว่า
“คงไม่สะดวกให้พบนะ ฉันรู้ว่าคุณคิดยังไงกับลูกสาวฉัน ก็ต้องขอบคุณแทนยัยฟ้า รวมทั้งทุกคนในครอบครัว ที่คุณดีกับพวกเรามาตลอด แต่คุณคงจะรู้ฐานะของตัวเองดีว่า ตอนนี้คุณมีปัญหามากมายเหลือเกิน ในฐานะแม่ของลูก คงต้องบอกว่าฉันอยากจะเห็นลูกสาวได้อยู่กับคนที่พร้อมจะดูแลเขาให้มีความสุข ได้ ถ้าคุณหวังดีกับฟ้าจริง คงจะเข้าใจนะ”
ภาคินรับฟังอย่างสงบนิ่ง แต่สีหน้าและสายตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง เศร้ารันทดกับความต่ำต้อยของตัวเอง...
ooooooo
ภาคินลาสายอุษา เดินออกจากบ้านมาด้วยความเศร้าเสียใจกับโชคชะตาของตัวเอง หันมองไปที่หน้าต่างห้องเพียงหวังจะได้เห็นปานฟ้าอีกสักครั้ง
ปานฟ้าหลบอยู่ริมหน้าต่าง พอเห็นเขามองขึ้นมาก็หลบนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ...
ความจริงเวลานี้คือ ภาคินเดินห่างออกไปทุกที แต่ความรู้สึกนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าเมื่อคิดว่า คงเป็นการจากกันอย่างไม่มีวันจะกลับมาเหมือนเดิมได้อีกแล้ว...
ooooooo
ฝ่ายวิมลวรรณ คอยจับผิดและอาฆาตแค้นป้านุ่มตลอดเวลา วันนี้เห็นป้านุ่มเดินขึ้นข้างบนก็ดักถามว่าจะไปไหน พอป้านุ่มบอกว่าจะขึ้นไปจัดห้องให้อานนท์ วิมลวรรณก็ปรามว่าสอดรู้สอดเห็นนัก คงจะรู้แล้วใช่ไหมว่าภาคินเจอกับอะไรบ้าง
“คุณหญิงคะ นุ่มขอร้องเลิกจองเวรจองกรรมกับสองแม่ลูกนี่เถอะนะคะ เลิกอาฆาตแค้นเถอะค่ะยิ่งแค้นเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่มีความสุข”
“ฉันไม่สุข คนอื่นก็อย่าหวังจะได้อยู่กันอย่างสบายเลย”
“ถ้าคุณยังทำร้ายคุณภาคินไม่เลิกแบบนี้ นุ่มจะไปบอกคุณอานนท์เดี๋ยวนี้ว่าคุณบุษบาอยู่ที่ไหน”
วิมลวรรณเดินมาขวางหน้าทันทีด่าว่าปากสว่าง เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าพูดเรื่องนี้เมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น แล้ววิมลวรรณก็ผลักป้านุ่มตกบันไดไปแน่นิ่งที่ชั้นล่าง วิมลวรรณมองลงไปอย่างสะใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ!
ooooooo
ที่โรงลิเก บุษบาสอนบุญทิ้งกับไข่ตุ๋นร้องเล่นลิเกอย่างจริงจัง ช้อยจะมาคอยกระแหนะกระแหนกระทั่งขู่ว่าถ้าถมมาเห็นต้องไม่พอใจแน่ แต่พอถมมา เห็นจริงๆกลับชม ยิ่งเมื่อบุญทิ้งเรียกถมว่า “พ่อถม” ก็ทำเอาถมปลื้ม บอกว่า
“เออ...เข้าใจเรียกจริงๆมีข้าเป็นครูอีกคนแล้วนะเอ็งน่ะ” พูดแล้วเอามือขยี้หัวบุญทิ้งอย่างเอ็นดู บุษบามองแล้วปลื้มแทนบุญทิ้ง
แล้วจู่ๆหนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวพบศพเด็กชายอายุไม่เกินสิบปีลอยไปติดที่ท่าน้ำนนท์ จากการตรวจสอบคาดว่าถูกทำร้ายจนตาย
ข่าวนี้ยังความดีอกดีใจให้พิม ภูวดล และปานดาวมาก เชื่อว่าศพนั้นคือบุญทิ้งแน่นอน ปานดาวถึงกับบอกพิมให้เอาเงินส่วนที่เหลือไปจ่ายให้นายพ่วงที่ทำงานสำเร็จ แล้วเสีย
ส่วนอนิรุทธิ์ตกใจ ปานเดือนถึงกับกรีดร้องคร่ำครวญ ถึงทินภัทร์ สายอุษาพยายามคิดว่าคงไม่ใช่บุญทิ้ง
นายพ่วงนั่งดวดเหล้าดูข่าว นึกภาวนาว่าขออย่าให้บุญทิ้งมาให้ใครแถวนี้เห็นเลย ไม่อย่างนั้นทั้งบุญทิ้งและตนได้เป็นศพจริงๆแน่ เพราะความจริงคือ นายพ่วงไปขโมยศพเด็กเอาไปทิ้งน้ำหลอกว่าตนทำงานสำเร็จแล้ว
ooooooo
แล้วก็มีเหตุให้บุญทิ้งต้องขึ้นเล่นลิเกแทนไข่ตุ๋น เพราะไข่ตุ๋นเกิดท้องเสียรุนแรงอย่างกะทันหัน บุญทิ้งตื่นเต้นมาก ร้องและรำผิดๆถูกๆแต่ก็ร้องรำได้อย่างน่ารัก จนได้รับความเอ็นดูจากผู้ชมที่พากันปรบมือ เกรียวกราว บ้างก็หยิกแก้มบ้างก็หอมกอดอย่างเอ็นดู
บุญทิ้งยืนยิ้มอยู่บนเวที มีพวงมาลัยเต็มคอ ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากแฟนลิเกมากมาย
วันนี้ เติมบุญกับสายอุษา รวมทั้งปานฟ้า ปานดาว กับธัญวิทย์ไปทำบุญที่วัด เสร็จแล้วเดินผ่านตลาด ไข่ตุ๋นกับบุญทิ้งพากันวิ่งเล่นที่นั่น บุญทิ้งปวดท้องจะกลับบ้านก่อน ไข่ตุ๋นจึงวิ่งไปซื้อโอเลี้ยง วิ่งไปชนธัญวิทย์เข้าก็ถูก ธัญวิทย์ผลักอกจนล้มก้นกระแทก ไข่ตุ๋นโวยวายก็ถูกด่าว่ามาชนตนก่อนทำไม
ไข่ตุ๋นไม่ยอม ลุกขึ้นผลักอกคืน เด็กสองคนทะเลาะกัน พิมเข้ามาด่าไข่ตุ๋นไล่อย่ามายุ่งกับธัญวิทย์ เท่านั้นไม่พอยังจับไข่ตุ๋นไว้ให้ธัญวิทย์ตีด้วย
บุญทิ้งแอบดูเห็นพวกเติมบุญก็ไม่กล้าโผล่ออกไป แต่ทนเห็นไข่ตุ๋นโดนรุมไม่ได้เลยคว้าหน้ากากอุลตร้าแมนใส่แล้ววิ่งออกไปช่วย ไข่ตุ๋น พิมเห็นบุญทิ้งเลยจะเข้าไปตี แต่เติมบุญกับปานฟ้าเห็นเสียก่อนจึงเข้าไปห้าม เติมบุญดุธัญวิทย์ว่าไม่ทันไรก็มาทะเลาะกับเขาอีกแล้ว บอกให้ขอโทษไข่ตุ๋นเสีย
ปานดาวออกมาปกป้องธัญวิทย์และด่าบุญทิ้งกับไข่ตุ๋นว่าเป็นเด็กจรจัด ไข่ตุ๋นบอกเติมบุญว่าไม่เป็นไรตนใจดีไม่ต้องขอโทษก็ได้ ขณะนั้น เติมบุญได้สบตากับบุญทิ้ง รู้สึกสะดุดตาว่าเคยเห็นกับแววตาแบบนี้ที่ไหน เหมือนคุ้นๆ
เมื่อพากันเดินกลับ เติมบุญบ่นธัญวิทย์ว่าใจร้อน ไม่น่าไปทะเลาะกับเขา ตาให้ขอโทษก็ไม่ยอม ดื้อจริงๆ
“พิมเองก็ด้วย เป็นผู้ใหญ่แล้วแทนที่จะห้ามยังไปช่วยตาวิทย์ทะเลาะกับเขา เรามีหน้าที่ดูแลไม่ใช่เหรอ ทีหลังอย่าทำอีกนะ” ปานฟ้าตำหนิ พิมทำเป็นพยักหน้ารับแต่ในใจโกรธแค้น
ooooooo
อ่านละครดุจดาวดิน ตอนที่ 10 วันที่ 29 ม.ค.55
ละครดุจดาวดินบทประพันธ์โดย : โยษิตา
ละครดุจดาวดินบทโทรทัศน์โดย : ภาคย์รพี, เอื้องอรุณ และไทสคริปท์
ละครดุจดาวดินกำกับการแสดงโดย : เอกภพ ตันหยงมาศกุล
ละครดุจดาวดินผลิตโดย : กันตนา
ละครดุจดาวดินแนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครดุจดาวดินออกอากาศ : วันพุธ-วันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ติดตามชมดุจดาวดินทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ La Thakpea, is one of professional hair braid with many styles for your favorite ones. I am available to go to your residence or anywhere in Bangkok you date. For more Infor, Plz Call: (+66) 086-551-3967 you may email us at: phalla19@gmail.com
0 comments:
Post a Comment