อ่านละครปางเสน่หา ตอนที่ 6
อ้อยใจตาเหลือก ทันใดนั้น มีลมพัดเย็นยะเยือกเข้ามา ตรีทศเรียกหาเกษรินอีกครั้ง ถ้านี่ใช่กระดูกเธอจริงๆ ขอให้ออกมาหาเขา ลมพัดอื้ออึงอย่างน่ากลัว พร้อมกับเสียงหมาหอนดังระงม อ้อยใจเห็นท่าไม่ดี เผ่นแน่บโดยไม่ลืมดึงผ้ายันต์จากมือตรีทศมาด้วย ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งรออยู่แถวนั้น คว้าแขนเธอไว้ อ้อยใจอ้าปากจะถามว่าตามเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ศักดิ์สิทธิ์ขัดเสียก่อน
“โอ๊ย...จะมาซักถามอะไรตอนนี้ รีบไปเร็ว” ศักดิ์สิทธิ์ว่าแล้วดึงแขนอ้อยใจวิ่งหนี เตชิตและศรีตรังมาถึงหลุมฝังศพคลาดกับอ้อยใจและศักดิ์สิทธิ์ไปนิดเดียว ศรีตรังดึงปืนออกจากเอว ตรงไปที่ตรีทศโดยมีเตชิตตามติด ตรีทศ เงยหน้ามองศรีตรังทั้งน้ำตา บอกเสียงแผ่วว่านี่คือโครงกระดูกของเกษริน ศรีตรังแปลกใจเขารู้ได้อย่างไร
“อ้อยบอก...อ้อยหายไปไหน” ตรีทศว่าพลางกวาด ตามองหาอ้อยใจ
“ฉันไม่เห็นมีใคร นอกจากคุณ...ไปขึ้นรถเถอะ วางโครงกระดูกลงอย่างเดิม”
ตรีทศทำตามอย่างว่าง่าย ขณะที่เกษรินร้องคร่ำครวญว่าตรีทศไม่ได้ฆ่าเธอ เตชิตแย้งว่าถ้าไม่ได้ฆ่าแล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอถูกฝังที่นี่ เกษรินยืนยันนั่นไม่ใช่โครง กระดูกของเธอ เตชิตคิดว่าเกษรินสับสน หลักฐานมัดตัวตรีทศขนาดนี้แล้วเขาจะไม่ใช่ฆาตกรได้อย่างไร
ooooooo
ข่าวการพบศพเกษรินแพร่สะพัดไปทั้งรีสอร์ตและในไร่ข้าวโพด ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ส่วนใหญ่ไม่อยากจะเชื่อว่าคนดีๆ แถมเอางานเอา การอย่างตรีทศจะกลายเป็นฆาตกรเลือดเย็นไปได้ ศรีตรังก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ไม่เชื่อ เตชิตต้องเข้ามาปลอบ
“แกไม่เคยดูหนังประเภทสืบสวนสอบสวนเหรอ ไอ้คนดีๆที่ไม่มีใครคาดคิดน่ะกลายเป็นฆาตกรทั้งนั้น”
“ไอ้เต...เราต้องเอาโครงกระดูกไปพิสูจน์ว่าใช่เกษรินแน่หรือเปล่า อาจจะเป็นโครงกระดูกคนอื่นก็ได้”
เตชิตก็คิดเหมือนศรีตรังเช่นกัน แล้วชวนเธอเข้ากรุงเทพฯทันที การไปกรุงเทพฯเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์โครงกระดูกของเกษริน ทำให้อ้อยใจกังวลใจมาก...
ระหว่างสองเพื่อนซี้บ่ายหน้าเข้ากรุงเทพฯโดยมีเตชิตเป็นสารถี อยู่ๆเสียงหวานปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง
“จะมาก็ไม่บอก”
เตชิตตกใจ จนทำให้รถเสียหลัก ศรีตรังร้องลั่น หลับตาปี๋ ชายหนุ่มตั้งสติได้รีบดึงพวงมาลัยรถกลับเข้า ถนน เสียงหวานรีบขอโทษขอโพยที่ทำให้ตกใจ เตชิตเอ็ดลั่นไม่ต้องทำเป็นมาขอโทษ ศรีตรังงง หันมองหน้าเตชิต
“ฉันยังไม่ได้ขอโทษแกสักคำ แกนั่นแหละต้องขอโทษฉัน”
เตชิตสวนทันทีว่าไม่ได้พูดกับศรีตรังสักคำ หญิงสาวตาเหลือกเอะอะลั่น ถ้าเป็นอย่างนั้น เตชิตก็พูดกับผีใช่ไหม เตชิตตกใจเสียงร้องของเพื่อนซี้ทำให้รถส่ายไปมา ทั้งผีทั้งคนร้องว้ายแข่งกัน เตชิตรำคาญรีบเบนรถจอดข้างทางไล่ทั้งคู่ลงจากรถ แต่เขากลับถูกศรีตรังไล่ให้มานั่งเบาะข้างคนขับแล้วเธอจะขับเอง เสียงหวานเชียร์สุดตัวเพราะกลัวตัวเองจะตายซ้ำตายซ้อน เตชิตแพ้เสียงโหวตจำต้องปล่อยให้ศรีตรังเป็นสารถีแทน...
ศรีตรังแทบช็อกเมื่อมาถึงบ้านของเตชิตแล้วพบว่าเตชิตมีลูกแล้ว แต่เด็กเป็นแบบเดียวกับเสียงหวานแถมวิ่งเล่นไปมาอยู่ในบ้านอีกด้วย ศรีตรังรับสภาพไม่ไหวขอกลับปากช่อง เตชิตไม่ให้ไป ศรีตรังโวยลั่น
“แค่ผีหนูเผือกเสียงหวานคนเดียวฉันก็จะแย่แล้ว นี่ยังพ่วงผีลูกแกขึ้นมาอีก...มีหวังหัวโกร๋นกันพอดี”
“ฉันยังมองไม่เห็นแล้วแกจะเห็นได้ยังไง” เตชิตสีหน้าหม่นหมองลง ก่อนจะปรับให้เป็นปกติ เดินนำเพื่อนรักเข้าบ้าน พอรู้ว่าเสียงหวานขึ้นไปอยู่กับลูกของเขาในห้องนอน ขอตัวไปหาลูกก่อน ศรีตรังพยักหน้า
“เออ...แกขึ้นไปหาครอบครัวแกเถอะ...ฝากความระลึกถึงด้วย” ศรีตรังมองตามเตชิตขึ้นบันไดอย่างหวาดๆคอยกวาดตามองรอบๆกลัวจะมีแขกไม่ได้ รับเชิญมาอยู่ด้วย ทันใดนั้น มีเสียงตุ๊กแกร้องดังขึ้น ศรีตรังสะดุ้งสุดตัวหันมองตามเสียงเห็นตุ๊กแกตัวเขื่องจ้องมาท่าทางไม่เป็น มิตร เธอไม่รอช้าเผ่นออกไปรอนอกบ้าน...
ทางด้านเตชิตขึ้นไปปรับความเข้าใจกับลูกโดยมีเสียงหวานเป็นสื่อกลางการ ติดต่อเพราะเขาไม่สามารถมองเห็นหรือได้ยินเสียงลูก เตชิตให้สัญญากับลูก ต่อไปนี้จะพยายามแวะมาหาแกบ่อยๆ แล้วเรียกลูกให้เข้ามาหา เด็กน้อยผละจากอ้อมกอดของเสียงหวานเข้าไปหาเตชิต เสียงหวานเห็นเด็กน้อยโอบกอดคอเขาไว้
เตชิตรู้สึกได้ถึงลมที่พัดเบาๆเข้ามากระทบ จึงยกแขนโอบกอดแกตอบแต่กอดได้เพียงลม เขาพยายามใหม่อีกครั้ง คราวนี้โอบแขนไว้เพียงหลวมๆ เสียงหวานมองภาพนั้นอย่างตื้นตันใจ...
ระหว่างที่ศรีตรังเดินชมนกชมไม้ในสวนบ้านเตชิตโดยไม่รู้ว่าเจียงกำลังแอบ ซุ่มดูอยู่นอกรั้ว มีเสียงมือถือของศรีตรังดังขึ้น ลุงสมโทร.มารายงานว่ายายภาไม่อนุญาตให้เอากระดูกของเกษรินไปชันสูตร
“น่าเห็นใจแกเหมือนกัน...ลุงสมบอกแกด้วยว่าศรีจะรับเป็นเจ้าภาพให้ทั้งสาม วันเลย ขอบคุณนะคะ” ศรีตรังวางสาย สีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจกลับเข้าบ้าน...
ที่บ้านของเดนิส หลังเดนิสวางสายจากเจียงก็หันมาบอกพอลว่าบังเอิญจริงๆวันนี้เจียงจะเข้าไป สังเกตการณ์เตรียมเผาบ้านเตชิตคืนนี้ เจอเตชิตเข้าพอดี สงสัยจะมาฮันนีมูน พอลยิ้มเยาะนิดๆ
“กับแม่สาวเจ้าของรีสอร์ตนั่นน่ะซี”
เดนิสฟังจากน้ำเสียงของพอลแล้วเหมือนหึงแม่นั่น พอลจะไปหึงเธอทำไมในเมื่อไม่รู้จักกัน
“เฮ่ย ไม่รู้จักแต่อาจจะถูกใจก็ได้ ฉันจะใช้เงินฟาดหัวเอาตัวมันมาให้นาย”
พอลส่ายหน้าขืนใช้วิธีนั้นไม่มีทางสำเร็จ ศรีตรังไม่เหมือนคนอื่น แล้วนึกขึ้นได้ว่าพูดเรื่องของศรีตรังมากไปรีบเปลี่ยนเรื่องพูด จะขอเป็นคนจัดการเผาบ้าน
เตชิตให้เอง เดนิสอยากปล่อยให้หน้าที่นี้เป็นของเจียงเพราะมีความแค้นส่วนตัวกันโดยตรง
ooooooo
เมื่อหมดทางพิสูจน์ดีเอ็นเอจากโครงกระดูกของเกษริน เตชิตกับศรีตรังกลับมาให้ความสนใจสืบที่มาที่ไปของเสียงหวานต่อ ทั้งคู่ชวนกันไปหาธนากรณ์เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทั้งคู่ที่สำนักงาน ใหญ่ นสพ.ไทยก้าวหน้า ธนากรณ์กุลีกุจอออกมาต้อนรับศรีตรังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สายตาที่มองเธอบ่งบอกความ รู้สึกชัดเจน
คำพูดคำจาก็หวานหูผิดจากที่พูดกับเตชิตลิบลับ หนำซ้ำเตชิตพูดด้วยเขาก็ทำหูทวนลม จนศรีตรังต้องขอร้องให้ธนากรณ์ช่วยฟังเตชิตพูดเพราะเป็นเรื่องด่วน ธนากรณ์พยักหน้ารับคำ เตชิตค่อยๆหยิบรูปวาดของเสียงหวานยื่นให้ธนากรณ์ดู อยากให้ช่วยสืบว่าผู้หญิงในรูปเป็น ใครและเกี่ยวข้องอะไรกับเจนจิรานางเอกละคร ธนากรณ์ ลีลาท่ามากกว่าจะรับปากช่วยเล่นเอาเตชิตลุ้นแทบแย่...
ในขณะที่เตชิต และศรีตรังมาขอความช่วยเหลือจากธนากรณ์ เสียงหวานกับลูกของเตชิตกำลังยืนอยู่ที่หน้าต่างบ้านเตชิต จ้องไปยังเจียงที่มาด้อมๆมองๆอยู่บริเวณนอกรั้วบ้าน เสียงหวานคลับคล้ายคลับคลาเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่ไหนมาก่อน แล้วนึกขึ้นได้ว่าเจอที่รีสอร์ตของศรีตรัง
“ต้องใช่ขโมยแหงๆ สงสัยอยากจะลองดีกับหนูซะแล้ว” สายตาของเด็กน้อยเป็นประกายน่ากลัว...
ครู่ต่อมา ธนากรณ์เดินมาส่งเตชิต และศรีตรังที่ลานจอดรถ เห็นมีร่างร่างหนึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลังรถของเตชิต ร้องทักว่ามีใครมาด้วยหรือโดยไม่รู้ว่านั่นคือผี ศรีตรังหน้าเสียหันมองเตชิตที่หัวเราะร่วนกลบเกลื่อน
“มีซิกเซ้นส์กับเขาเหมือนกันนี่หว่า” เตชิตว่าแล้วพยักพเยิดให้ศรีตรังไปขึ้นรถ
ธนากรณ์โบกมือ และยิ้มให้เสียงหวานขณะที่รถของเตชิตขับผ่าน เขารู้สึกคุ้นๆหน้าผู้หญิงคนนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วนึกขึ้นได้ว่าเหมือนในรูปวาดที่เตชิตเอาให้ดูเมื่อครู่นี้นั่นเอง...
เตชิตขับรถมาได้สักพัก เสียงหวานถึงได้บอกเขาว่าเห็นเจียงมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านของเขา เตชิตโวยลั่นทำไมเพิ่งมาบอก ถ้าเกิดเจียงจับลูกของเขาหักคอ เสียงหวานจะรับผิดชอบไหวไหม
“ลูกแกน่าจะหักคอไอ้เจียงมากกว่ามั้ง” ศรีตรังตั้งข้อสังเกต เตชิตเหลือบมองเพื่อนรักฉุนๆแล้วเหยียบคันเร่งจมมิดรีบกลับบ้าน...
พอลนอนไม่หลับ เกรงเตชิตกับศรีตรังจะได้รับอันตราย รีบโทร.ขอความช่วยเหลือจากเสนาให้ส่งตำรวจไปที่นั่นทันที เพราะเจียงวางแผนจะเผาบ้านเตชิต...
เป็นจริงอย่างที่ศรีตรังพูดไม่มีผิด ลูกของเตชิตหลอกหลอนเจียงกับลูกน้องวิ่งหนีกันป่าราบ แหกปากร้องลั่นว่าผีหลอก ขณะทั้งคู่วิ่งหนีออกจากซอยบ้านเตชิตชนกับตำรวจสายตรวจที่เสนาส่งไปดูความ เรียบร้อยพอดี...
ในระหว่างที่เสนาโทร.คุยกับพอลเรื่องที่เจียงบอกกับตำรวจว่าถูกผีเด็กหลอก เดนิสเรียกสายซ้อนมาที่มือถือของพอล พอลขออนุญาตเสนารับสายเดนิสก่อน แล้วกดพักสายเสนาไว้
อ่านละครปางเสน่หา ตอนที่ 6 วันที่ 30 ม.ค.55
โดย บทประพันธ์ น้ำดอกไม้ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ภาวิต
ที่มา ไทยรัฐ
La Thakpea, is one of professional hair braid with many styles for your favorite ones. I am available to go to your residence or anywhere in Bangkok you date. For more Infor, Plz Call: (+66) 086-551-3967 you may email us at: phalla19@gmail.com
อ้อยใจตาเหลือก ทันใดนั้น มีลมพัดเย็นยะเยือกเข้ามา ตรีทศเรียกหาเกษรินอีกครั้ง ถ้านี่ใช่กระดูกเธอจริงๆ ขอให้ออกมาหาเขา ลมพัดอื้ออึงอย่างน่ากลัว พร้อมกับเสียงหมาหอนดังระงม อ้อยใจเห็นท่าไม่ดี เผ่นแน่บโดยไม่ลืมดึงผ้ายันต์จากมือตรีทศมาด้วย ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งรออยู่แถวนั้น คว้าแขนเธอไว้ อ้อยใจอ้าปากจะถามว่าตามเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ศักดิ์สิทธิ์ขัดเสียก่อน
“โอ๊ย...จะมาซักถามอะไรตอนนี้ รีบไปเร็ว” ศักดิ์สิทธิ์ว่าแล้วดึงแขนอ้อยใจวิ่งหนี เตชิตและศรีตรังมาถึงหลุมฝังศพคลาดกับอ้อยใจและศักดิ์สิทธิ์ไปนิดเดียว ศรีตรังดึงปืนออกจากเอว ตรงไปที่ตรีทศโดยมีเตชิตตามติด ตรีทศ เงยหน้ามองศรีตรังทั้งน้ำตา บอกเสียงแผ่วว่านี่คือโครงกระดูกของเกษริน ศรีตรังแปลกใจเขารู้ได้อย่างไร
“อ้อยบอก...อ้อยหายไปไหน” ตรีทศว่าพลางกวาด ตามองหาอ้อยใจ
“ฉันไม่เห็นมีใคร นอกจากคุณ...ไปขึ้นรถเถอะ วางโครงกระดูกลงอย่างเดิม”
ตรีทศทำตามอย่างว่าง่าย ขณะที่เกษรินร้องคร่ำครวญว่าตรีทศไม่ได้ฆ่าเธอ เตชิตแย้งว่าถ้าไม่ได้ฆ่าแล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอถูกฝังที่นี่ เกษรินยืนยันนั่นไม่ใช่โครง กระดูกของเธอ เตชิตคิดว่าเกษรินสับสน หลักฐานมัดตัวตรีทศขนาดนี้แล้วเขาจะไม่ใช่ฆาตกรได้อย่างไร
ooooooo
ข่าวการพบศพเกษรินแพร่สะพัดไปทั้งรีสอร์ตและในไร่ข้าวโพด ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ส่วนใหญ่ไม่อยากจะเชื่อว่าคนดีๆ แถมเอางานเอา การอย่างตรีทศจะกลายเป็นฆาตกรเลือดเย็นไปได้ ศรีตรังก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ไม่เชื่อ เตชิตต้องเข้ามาปลอบ
“แกไม่เคยดูหนังประเภทสืบสวนสอบสวนเหรอ ไอ้คนดีๆที่ไม่มีใครคาดคิดน่ะกลายเป็นฆาตกรทั้งนั้น”
“ไอ้เต...เราต้องเอาโครงกระดูกไปพิสูจน์ว่าใช่เกษรินแน่หรือเปล่า อาจจะเป็นโครงกระดูกคนอื่นก็ได้”
เตชิตก็คิดเหมือนศรีตรังเช่นกัน แล้วชวนเธอเข้ากรุงเทพฯทันที การไปกรุงเทพฯเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์โครงกระดูกของเกษริน ทำให้อ้อยใจกังวลใจมาก...
ระหว่างสองเพื่อนซี้บ่ายหน้าเข้ากรุงเทพฯโดยมีเตชิตเป็นสารถี อยู่ๆเสียงหวานปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง
“จะมาก็ไม่บอก”
เตชิตตกใจ จนทำให้รถเสียหลัก ศรีตรังร้องลั่น หลับตาปี๋ ชายหนุ่มตั้งสติได้รีบดึงพวงมาลัยรถกลับเข้า ถนน เสียงหวานรีบขอโทษขอโพยที่ทำให้ตกใจ เตชิตเอ็ดลั่นไม่ต้องทำเป็นมาขอโทษ ศรีตรังงง หันมองหน้าเตชิต
“ฉันยังไม่ได้ขอโทษแกสักคำ แกนั่นแหละต้องขอโทษฉัน”
เตชิตสวนทันทีว่าไม่ได้พูดกับศรีตรังสักคำ หญิงสาวตาเหลือกเอะอะลั่น ถ้าเป็นอย่างนั้น เตชิตก็พูดกับผีใช่ไหม เตชิตตกใจเสียงร้องของเพื่อนซี้ทำให้รถส่ายไปมา ทั้งผีทั้งคนร้องว้ายแข่งกัน เตชิตรำคาญรีบเบนรถจอดข้างทางไล่ทั้งคู่ลงจากรถ แต่เขากลับถูกศรีตรังไล่ให้มานั่งเบาะข้างคนขับแล้วเธอจะขับเอง เสียงหวานเชียร์สุดตัวเพราะกลัวตัวเองจะตายซ้ำตายซ้อน เตชิตแพ้เสียงโหวตจำต้องปล่อยให้ศรีตรังเป็นสารถีแทน...
ศรีตรังแทบช็อกเมื่อมาถึงบ้านของเตชิตแล้วพบว่าเตชิตมีลูกแล้ว แต่เด็กเป็นแบบเดียวกับเสียงหวานแถมวิ่งเล่นไปมาอยู่ในบ้านอีกด้วย ศรีตรังรับสภาพไม่ไหวขอกลับปากช่อง เตชิตไม่ให้ไป ศรีตรังโวยลั่น
“แค่ผีหนูเผือกเสียงหวานคนเดียวฉันก็จะแย่แล้ว นี่ยังพ่วงผีลูกแกขึ้นมาอีก...มีหวังหัวโกร๋นกันพอดี”
“ฉันยังมองไม่เห็นแล้วแกจะเห็นได้ยังไง” เตชิตสีหน้าหม่นหมองลง ก่อนจะปรับให้เป็นปกติ เดินนำเพื่อนรักเข้าบ้าน พอรู้ว่าเสียงหวานขึ้นไปอยู่กับลูกของเขาในห้องนอน ขอตัวไปหาลูกก่อน ศรีตรังพยักหน้า
“เออ...แกขึ้นไปหาครอบครัวแกเถอะ...ฝากความระลึกถึงด้วย” ศรีตรังมองตามเตชิตขึ้นบันไดอย่างหวาดๆคอยกวาดตามองรอบๆกลัวจะมีแขกไม่ได้ รับเชิญมาอยู่ด้วย ทันใดนั้น มีเสียงตุ๊กแกร้องดังขึ้น ศรีตรังสะดุ้งสุดตัวหันมองตามเสียงเห็นตุ๊กแกตัวเขื่องจ้องมาท่าทางไม่เป็น มิตร เธอไม่รอช้าเผ่นออกไปรอนอกบ้าน...
ทางด้านเตชิตขึ้นไปปรับความเข้าใจกับลูกโดยมีเสียงหวานเป็นสื่อกลางการ ติดต่อเพราะเขาไม่สามารถมองเห็นหรือได้ยินเสียงลูก เตชิตให้สัญญากับลูก ต่อไปนี้จะพยายามแวะมาหาแกบ่อยๆ แล้วเรียกลูกให้เข้ามาหา เด็กน้อยผละจากอ้อมกอดของเสียงหวานเข้าไปหาเตชิต เสียงหวานเห็นเด็กน้อยโอบกอดคอเขาไว้
เตชิตรู้สึกได้ถึงลมที่พัดเบาๆเข้ามากระทบ จึงยกแขนโอบกอดแกตอบแต่กอดได้เพียงลม เขาพยายามใหม่อีกครั้ง คราวนี้โอบแขนไว้เพียงหลวมๆ เสียงหวานมองภาพนั้นอย่างตื้นตันใจ...
ระหว่างที่ศรีตรังเดินชมนกชมไม้ในสวนบ้านเตชิตโดยไม่รู้ว่าเจียงกำลังแอบ ซุ่มดูอยู่นอกรั้ว มีเสียงมือถือของศรีตรังดังขึ้น ลุงสมโทร.มารายงานว่ายายภาไม่อนุญาตให้เอากระดูกของเกษรินไปชันสูตร
“น่าเห็นใจแกเหมือนกัน...ลุงสมบอกแกด้วยว่าศรีจะรับเป็นเจ้าภาพให้ทั้งสาม วันเลย ขอบคุณนะคะ” ศรีตรังวางสาย สีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจกลับเข้าบ้าน...
ที่บ้านของเดนิส หลังเดนิสวางสายจากเจียงก็หันมาบอกพอลว่าบังเอิญจริงๆวันนี้เจียงจะเข้าไป สังเกตการณ์เตรียมเผาบ้านเตชิตคืนนี้ เจอเตชิตเข้าพอดี สงสัยจะมาฮันนีมูน พอลยิ้มเยาะนิดๆ
“กับแม่สาวเจ้าของรีสอร์ตนั่นน่ะซี”
เดนิสฟังจากน้ำเสียงของพอลแล้วเหมือนหึงแม่นั่น พอลจะไปหึงเธอทำไมในเมื่อไม่รู้จักกัน
“เฮ่ย ไม่รู้จักแต่อาจจะถูกใจก็ได้ ฉันจะใช้เงินฟาดหัวเอาตัวมันมาให้นาย”
พอลส่ายหน้าขืนใช้วิธีนั้นไม่มีทางสำเร็จ ศรีตรังไม่เหมือนคนอื่น แล้วนึกขึ้นได้ว่าพูดเรื่องของศรีตรังมากไปรีบเปลี่ยนเรื่องพูด จะขอเป็นคนจัดการเผาบ้าน
เตชิตให้เอง เดนิสอยากปล่อยให้หน้าที่นี้เป็นของเจียงเพราะมีความแค้นส่วนตัวกันโดยตรง
ooooooo
เมื่อหมดทางพิสูจน์ดีเอ็นเอจากโครงกระดูกของเกษริน เตชิตกับศรีตรังกลับมาให้ความสนใจสืบที่มาที่ไปของเสียงหวานต่อ ทั้งคู่ชวนกันไปหาธนากรณ์เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทั้งคู่ที่สำนักงาน ใหญ่ นสพ.ไทยก้าวหน้า ธนากรณ์กุลีกุจอออกมาต้อนรับศรีตรังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สายตาที่มองเธอบ่งบอกความ รู้สึกชัดเจน
คำพูดคำจาก็หวานหูผิดจากที่พูดกับเตชิตลิบลับ หนำซ้ำเตชิตพูดด้วยเขาก็ทำหูทวนลม จนศรีตรังต้องขอร้องให้ธนากรณ์ช่วยฟังเตชิตพูดเพราะเป็นเรื่องด่วน ธนากรณ์พยักหน้ารับคำ เตชิตค่อยๆหยิบรูปวาดของเสียงหวานยื่นให้ธนากรณ์ดู อยากให้ช่วยสืบว่าผู้หญิงในรูปเป็น ใครและเกี่ยวข้องอะไรกับเจนจิรานางเอกละคร ธนากรณ์ ลีลาท่ามากกว่าจะรับปากช่วยเล่นเอาเตชิตลุ้นแทบแย่...
ในขณะที่เตชิต และศรีตรังมาขอความช่วยเหลือจากธนากรณ์ เสียงหวานกับลูกของเตชิตกำลังยืนอยู่ที่หน้าต่างบ้านเตชิต จ้องไปยังเจียงที่มาด้อมๆมองๆอยู่บริเวณนอกรั้วบ้าน เสียงหวานคลับคล้ายคลับคลาเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่ไหนมาก่อน แล้วนึกขึ้นได้ว่าเจอที่รีสอร์ตของศรีตรัง
“ต้องใช่ขโมยแหงๆ สงสัยอยากจะลองดีกับหนูซะแล้ว” สายตาของเด็กน้อยเป็นประกายน่ากลัว...
ครู่ต่อมา ธนากรณ์เดินมาส่งเตชิต และศรีตรังที่ลานจอดรถ เห็นมีร่างร่างหนึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลังรถของเตชิต ร้องทักว่ามีใครมาด้วยหรือโดยไม่รู้ว่านั่นคือผี ศรีตรังหน้าเสียหันมองเตชิตที่หัวเราะร่วนกลบเกลื่อน
“มีซิกเซ้นส์กับเขาเหมือนกันนี่หว่า” เตชิตว่าแล้วพยักพเยิดให้ศรีตรังไปขึ้นรถ
ธนากรณ์โบกมือ และยิ้มให้เสียงหวานขณะที่รถของเตชิตขับผ่าน เขารู้สึกคุ้นๆหน้าผู้หญิงคนนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วนึกขึ้นได้ว่าเหมือนในรูปวาดที่เตชิตเอาให้ดูเมื่อครู่นี้นั่นเอง...
เตชิตขับรถมาได้สักพัก เสียงหวานถึงได้บอกเขาว่าเห็นเจียงมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านของเขา เตชิตโวยลั่นทำไมเพิ่งมาบอก ถ้าเกิดเจียงจับลูกของเขาหักคอ เสียงหวานจะรับผิดชอบไหวไหม
“ลูกแกน่าจะหักคอไอ้เจียงมากกว่ามั้ง” ศรีตรังตั้งข้อสังเกต เตชิตเหลือบมองเพื่อนรักฉุนๆแล้วเหยียบคันเร่งจมมิดรีบกลับบ้าน...
พอลนอนไม่หลับ เกรงเตชิตกับศรีตรังจะได้รับอันตราย รีบโทร.ขอความช่วยเหลือจากเสนาให้ส่งตำรวจไปที่นั่นทันที เพราะเจียงวางแผนจะเผาบ้านเตชิต...
เป็นจริงอย่างที่ศรีตรังพูดไม่มีผิด ลูกของเตชิตหลอกหลอนเจียงกับลูกน้องวิ่งหนีกันป่าราบ แหกปากร้องลั่นว่าผีหลอก ขณะทั้งคู่วิ่งหนีออกจากซอยบ้านเตชิตชนกับตำรวจสายตรวจที่เสนาส่งไปดูความ เรียบร้อยพอดี...
ในระหว่างที่เสนาโทร.คุยกับพอลเรื่องที่เจียงบอกกับตำรวจว่าถูกผีเด็กหลอก เดนิสเรียกสายซ้อนมาที่มือถือของพอล พอลขออนุญาตเสนารับสายเดนิสก่อน แล้วกดพักสายเสนาไว้
อ่านละครปางเสน่หา ตอนที่ 6 วันที่ 30 ม.ค.55
โดย บทประพันธ์ น้ำดอกไม้ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ภาวิต
ที่มา ไทยรัฐ
0 comments:
Post a Comment